Infrared Sauna (อินฟราเรดซาวน่า)

คลื่นพลังงานความร้อนอินฟราเรด เป็นคลื่นพลังงานความร้อนที่เกิดจากการสะท้อนกลับ ลักษณะของความร้อนที่เกิดจากการสะท้อนกลับของคลื่นอินฟราเรดจะอุ่นและค่อยๆ ร้อนขึ้นจากวัตถุโดยตรงโดยไม่ทำให้อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมรอบข้างสูงขึ้น

ประโยชน์หลักของอินฟราเรดซาวน่า

  • ขจัดสารพิษตกค้างตามชั้นผิวหนังในชั้นเนื้อเยื่อและในกระแสเลือด
  • เพิ่มภาวะหมุนเวียนโลหิตและฟื้นฟูสภาพเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย
  • บรรเทาอาการเจ็บปวดต่างๆ จากการเล่นกีฬา หรือกล้ามเนื้อฉีกขาด
  • ช่วยเผาผลาญไขมันและควบคุมน้ำหนัก
  • ให้ผลทดแทนเหมือนกับการออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญไขมันและควบคุมน้ำหนัก เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือผู้บาดเจ็บซึ่งไม่สามารถทำกิจกรรมหนักๆ ได้
  • ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายดีขึ้น
  • ลดความเครียด
  • ชะลอวัยให้ผิวพรรณกระจ่างสดใส
  • ทุกชีวิตต้องการคลื่นรังสีความร้อนโดยเฉพาะคลื่นความร้อนที่เกิดจากดวง อาทิตย์ หากแต่ว่าไม่ใช่ทุกขนาดความถี่ของคลื่นรังสีจะเหมาะสมและมีประโยชน์ต่อร่าง กาย แสงแดดที่มากเกินไปจะส่งผลเสียต่อผิวหนังของมนุษย์ คลื่นความร้อนอินฟราเรดนั้นเป็นช่วงคลื่นรังสีต่างชนิดกับคลื่นอัลตร้าไวโอ เล็ต ลักษณะของคลื่นอินฟราเรดนั้นมีช่วงความถี่ที่แคบอยู่ในช่วง 5.6 – 15ไมครอน ซึ่งสามารถลงลึกเข้าสู่ชั้นผิวหนัง 2-3นิ้ว พลังงานความร้อนจากคลื่นช่วยเพิ่มภาวะหมุนเวียนโลหิตรวมไปถึงการช่วยฟื้นฟู สภาพเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย จึงกล่าวได้ว่าคลื่นอินฟราเรด เป็นคลื่นธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์ และไม่ก่อให้เกิดผลเสียใด ๆ ต่อผิวหนังของมนุษย์

    อินฟราเรดซาวน่าดีกว่าซาวน่าทั่วไปอย่างไร?

    การซาวน่าด้วยระบบคลื่นอินฟรา เรดนั้นใช้คลื่นอินฟราเรดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและเป็นคลื่น ความถี่ในระดับที่เหมาะสมไม่มีรังสียูวีจึงไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ต่อร่างกาย

    พลังงานความร้อนจากคลื่นอิน- ฟราเรดนั้นให้ความอบอุ่นกับร่างกายเฉกเช่นเดียวกับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์

    ซาวน่าแบบทั่วไปที่เราคุ้นเคย มีหลักในการทำงานคือทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นด้วยการทำให้อากาศภายใน ห้องซาวน่าร้อนขึ้นในอุณหภูมิที่สูงมากจึงทำให้รู้- สึกอึดอัดและหายใจไม่ค่อยสะดวก พร้อมทั้งเกิดผลเสียต่อร่างกายทั้งต่อผิวหนัง เส้นผมและเซลล์ต่างๆ  ซึ่งแตกต่างจากการทำงานของอินฟราเรดซาวน่าโดยสิ้นเชิง เพราะการทำงานของคลื่นFIRนั้นจะไม่ทำให้อากาศภายในห้องมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ คลื่นFIRจะส่งคลื่นความร้อนไปที่ร่างกายโดยตรงเพื่อทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิ สูงขึ้นและสามารถเข้าถึงเนื้อเยื่อในชั้นลึกได้ดียิ่งกว่า ร่างกายของเราจะขับเหงื่อออกมาในปริมาณมากโดยที่ไม่ต้องอาศัยอุณหภูมิที่สูง มากดังเช่นซาวน่าทั่วไป   FIR จึงเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

    อินฟราเรดซาวน่า ช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างไร

    การเสียเหงื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อระดับความร้อนของร่างกายรวมถึงการสูบฉีดของหัวใจและการเผา ผลาญพลังงานของร่างกายสูงขึ้นจากปกติ กระบวนการเหล่านี้จำเป็นต้องใช้พลังงานมาก ส่งผลให้น้ำส่วนเกินในร่างกายรวมถึงไขมันใต้ผิวหนังลดลง ไขมันจะละลายเปลี่ยนเป็นน้ำที่อุณหภูมิ 110องศาฟาเรนไฮน์ ส่งผลให้ไขมันและสารพิษถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ จากผลการวิจัยพบว่า ในการเข้าอินฟราเรดซาวน่า 30นาที ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 600-900แคลอรี่(ขึ้นอยู่กับการเผาผลาญในแต่ละบุคคล)

    อินฟราเรดซาวน่าให้ผลเหมือนกับการออกกำลังกายอย่างไร

    ตลอดระยะเวลาในการทำอินฟราเรดซาวน่า เราจะสูญเสียพลังงานและเหงื่อ เทียบเท่ากับการวิ่งเป็นระยะทางประมาณ 6ไมล์ หรือการเต้นแอโรบิคเป็นเวลา 30นาที ดังนั้นอินฟราเรดซาวน่าจึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ตามปกติ หรือคนที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งไม่สามารถทำกิจกรรมหนักๆได้

    อินฟราเรดซาวน่าช่วยกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกายได้อย่างไร

    สารพิษต่างๆ เช่น โซเดียม แอลกอฮอล์ นิโคติน คลอเรสเตอรอล และโลหะหนักต่างๆ (แคดเมียม สังกะสี นิกเกิล) และสารปรอทที่สะสมอยู่ในร่างกายในระหว่างวัน โดยปกติแล้วร่างกายจะขับสารพิษออกมาตามธรรมชาติได้ทางเหงื่อ แต่กระบวนการที่ว่านี้บางครั้งก็ช้าเกินไป การทำอินฟราเรดซาวน่าจะช่วยกระตุ้นต่อมเหงื่อ ซึ่งเป็นการทำความสะอาดและกำจัดสารพิษออกจากผิวหนัง เทคโนโลยีการใช้ความร้อนจากคลื่นอินฟราเรดนี้จะช่วยเร่งกระบวนการทาง ธรรมชาติของร่างกายได้โดยตรง

    อินฟราเรดซาวน่าช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดต่างๆได้อย่างไร?

    ระหว่างการทำอินฟราเรดซาวน่า ความร้อนจากคลื่นอินฟราเรดจะช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มการไหลเวียนของกระแสโลหิต การไหลเวียนที่ดีนั้นจะส่งผลให้ก๊าซออกซิเจนซึ่งช่วยในการสมานแผลสามารถเดิน ทางไปสู่บริเวณที่เจ็บปวดได้มาก อาการเจ็บปวดต่างๆตามร่างกายจะลดลงและจะหายเป็นปกติได้เร็วขึ้น มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จในการใช้คลื่นอินฟราเรดเพื่อบำบัดรักษา โรคข้ออักเสบและอาการกล้ามเนื้อกระตุก

    อินฟราเรดซาวน่าช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายดีขึ้นได้อย่างไร

    ทำไมเวลาคนเราล้มป่วยไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคใดๆมักจะมีอาการไข้ขึ้นด้วย เสมอๆ  คนทั่วไปมักจะเข้าใจว่าเราเป็นไข้เพราะเชื้อโรคเป็นตัวกระทำ แต่แท้ที่จริงแล้วอาการไข้ขึ้นเกิดจากการทำงานของกระบวนการต่อต้านโรคภัยไข้ เจ็บของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเรา  ซึ่งเป็นการเร่งอุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้นเพื่อกำจัดทำลายเชื้อโรคและ สิ่งแปลกปลอมต่างๆออกจากร่างกาย  ระบบภูมิคุ้มกันจะยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและทำให้เชื้อไวรัส อ่อนแอลง

    การเข้าอินฟราเรดซาวน่า เสมือนเป็นการสร้างภาวะไข้เทียมขึ้นด้วยการทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายสูง ขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีอาการเจ็บป่วยใดๆ  ซึ่งผลที่เราได้รับคือการที่ร่างกายเราสามารถตอบรับและจัดการกับโรคภัยไข้ เจ็บได้ดียิ่งขึ้นเพราะระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเราถูกกระตุ้นให้ทำ งานอย่างสม่ำเสมอเพื่อจัดการกับไข้เทียมนี้ ซึ่งมีการสำรวจได้ระบุว่าสำหรับผู้ที่มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดในระยะต้นๆหาก ได้เข้าอินฟราเรดซาวน่าอาการจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    อินฟราเรดซาวน่าช่วยลดอาการเครียดได้อย่างไร

    การเข้าอินฟราเรดซาวน่าจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อทำให้ร่างกายเบาสบาย นักบำบัดหลายท่านเลือกที่จะให้ลูกค้าเข้าอินฟราเรดก่อนการนวดเพื่อการบำบัด ที่ได้ผลดีที่ยิ่งขึ้น

    อินฟราเรดซาวน่าดีต่อผิวพรรณของคุณอย่างไร

    คลื่นอินฟราเรดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและระบบการผลัดเซลล์ของผิว หนัง จึงช่วยกำจัดฝุ่นละออง สารพิษตกค้างและเซลล์เก่าจากผิวหนังชั้นนอกให้หลุดลอกออกไปทำให้ผิวพรรณดูสด ใสกระชับและมีสุขภาพดี

    เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย

    การทำอินฟราเรดซาวน่านั้นมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากสามารถตั้งเวลาและควบคุมอุณหภูมิได้ เครื่องจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อครบเวลาตามที่กำหนดหรืออุณหภูมิสูงขึ้น จนเกินระดับที่ตั้งไว้ ดังนั้นคุณจะรู้สึกผ่อนคลายโดยไม่ต้องกังวลถึงระดับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น

    เครดิต : http://www.hydrohealth.co.th

รู้หรือไม่? ซาวน่าไม่ได้ให้ประโยชน์เพียงแค่ขับเหงื่อ หรือขับของเสียออกจากร่างกายเท่านั้น แต่จะมีประโยชน์อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

การทำซาวน่า เชื่อว่าต้องมีหลายคนต้องเคยทำมาบ้างล่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมทำซาวน่ากันหลังจากออกกำลังกายใช่มะ จริงๆ เราสามารถทำซาวน่าได้ทั้งก่อนและหลังออกกำลังกายเลยนะ แต่ไม่ว่าจะทำซาวน่าตอนไหน เรามาดูประโยชน์ของซาวน่าที่มากกว่าช่วยขับเหงื่อกัน

✿ ซาวน่าช่วยผ่อนคลายทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ – ด้านร่างกาย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ – ด้านจิตใจ ช่วยผ่อนคลายความเครียด

✿ ซาวน่าช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันและรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ เช่น – อาการปวดเมื่อยแผ่นหลัง ต้นคอ แขน ขา – โรคนอนไม่หลับ

✿ ซาวน่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันหน้าหนาวได้ 2 เท่า ความร้อนจากซาวน่ากระตุ้นระบบโลหิตใต้ผิวหนัง ให้หมุนเวียนสูบฉีดว่องไว ขณะทำซาวน่า หลอดเลือดจะมีการขยายตัว เมื่อออกจากซาวน่า หลอดเลือดก็จะหดตัว ภาวะที่หลอดเลือดหดและขยายตัวเช่นนี้ คือการออกกำลังกายให้กับหลอดเลือด ซึ่งขณะที่อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส อุณหภูมิของผิวจะเพิ่มขึ้นจนถึง 10 องศาเซลเซียส ภาวะดังกล่าวจะไปกระตุ้นการสร้างสารปกป้องร่างกาย ทำให้ร่างกายมีความต้านทานต่อสภาวะอากาศหนาวได้ดียิ่งขึ้น

✿ ซาวน่าช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เนื่องจากการทำซาวน่าจะไปกระตุ้นให้ไตเกิดการฟอกของเสียได้ดีขึ้น ดังนั้นระหว่างซาวน่าให้ ค่อยๆ จิบน้ำเพียงเล็กน้อย เนื่องจากขณะที่ร่างกายขับเหงื่อจะมีการดึงน้ำ และของเสียจากเนื้อเยื่อเข้าไปในระบบโลหิต ถ้าดื่มน้ำแบบรวดเร็ว ระบบโลหิตจะไปดึงของเหลวจากลำไส้แทนการดึงจากเนื้อเยื่อ ซึ่งจะไปขัดขวางระบบขับของเสียโดยไม่รู้ตัว

เคคดิต: https://www.wongnai.com

การอบไอน้ำทำงานโดยกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย คือมีอุณหภูมิพอเหมาะ (40-60 องศาเซลเซียส) และมีค่าความชื้นสูงสุดคือ 100% ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและขจัดสารพิษออก
ในขณะที่ซาวน่ามีอุณหภูมิร้อนกว่า (มากสุด 80 องศาเซลเซียส) และแห้งกว่า การสลับระหว่างอบซาวน่าและอาบน้ำเย็นทำให้เกิดการขยายและหดตัวของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดกระชุ่มกระชวยขึ้น

ประโยชน์

ความชื้นของการอบไอน้ำอยู่ในระดับที่สามารถทนได้และไม่ทำให้เกิดการเสียน้ำของร่างกาย สำหรับซาวน่านั้นเหมาะกับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดในขั้นแรก

เมื่อไหร่และทำไมถึงควรงด

ไม่มีกฏตายตัวว่าเมื่อไรถึงควรงดแต่อาจมีข้อห้ามบางอย่างสำหรับคนที่มีเนื้องอก ความดันโลหิตต่ำ โรคติดต่อบางโรค และโรคระบบไหลเวียนของเลือดที่ปรากฏอาการเส้นเลือดขอดแบบแผ่กระจาย ส่วนคนที่เป็นโรคกลัวที่แคบไม่แนะนำให้ใช้บริการซาวน่าและอบไอน้ำ นี่เป็นเหตุผลที่การดูแลสุขภาพทั้งสองแบบนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

ระยะเวลาและความถี่ที่แนะนำ

สำหรับการอบไอน้ำ 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวัน ส่วนซาวน่านั้นมากที่สุดก็ครั้งละ 1 ชั่วโมงหนึ่งครั้ง ต่อเดือน ควรเริ่มจากเวลาสั้น ๆ แล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นไปเรื่อย ๆ คราวละเล็กน้อย

ควรใช้เครื่องสำอางประเภทไหนควบคุ่ไปด้วย?

สำหรับการอบไอน้ำให้ใช้โคลนพอกตัวและมาสก์ สำหรับซาวน่าให้ใช้ออยล์ให้ความชุ่มชื้นกับผม และสำหรับทั้งสองอย่าง หลังจากเสร็จภารกิจให้ใช้อุปกรณ์ขัดผิว สบู่หรือครีมสครับ ถุงมือ หรือฟองน้ำใยธรรมชาติ พวกมันช่วยให้เนื้อเยื่อฟื้นฟู โดยการขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกโดยที่ความร้อนและไอน้ำทำให้มันอ่อนตัว

ที่มา ... bloggang : warannat
รูปภาพ...จากอินเตอร์เนต






รู้ไหม? … ซาวน่ามีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

 

เคยคิดไหมว่าทำไมฟิตเนสถึงมีห้องซาวน่าคิดง่ายๆ ว่ามันน่าจะเหมาะกับการเข้าหลังออกกำลังกาย เพราะความร้อนอบอ้าวในห้องนั้นช่วยให้กล้ามเนื้อคลายความตึงเกร็งลงได้ดี แต่ประโยชน์ของมันมีแค่นั่นจริงๆ หรือ? ไม่จริงหรอก เพราะประโยชน์ของการซาวน่ามีมากกว่านั้นเยอะ ไม่อย่างนั้นคนจะลงทุนเป็นแสนๆ สร้างห้องร้อนๆ ให้คนมานั่งแก้ผ้าเอามือกุมไข่ไปทำไม

1. หัวใจแข็งแรง

เมื่อผลการศึกษาจากเมืองหนาวอย่างประเทศฟินแลนด์พบว่าซาวน่าส่งผลบวกต่อการทำงานของหัวใจและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เมื่อพวกเขาพบว่าการซาวน่า 4-7 ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคลง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคนที่ซาวน่าเพียงสัปดาห์ละครั้ง เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิในร่างกายคนเราสูงขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจก็จะเต้นเร็วขึ้นตามไปด้วย ไม่ต่างจากการออกกำลังกายระดับปานกลางที่อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 100-150 ครั้งต่อนาที ส่งผลให้หลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น ไม่เป็นโรคหลอดเลือดตีบตัน เป็นมิตรกับหัวใจ

2. ดีต่อกล้ามเนื้อ

เพื่อตอบคำถามว่าทำไมฟิตเนสถึงมีห้องซาวน่า ก็เพราะการซาวน่าช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้เร็วขึ้น เพราะเมื่อเลือดไหลเวียนดี เลือดพวกนี้จะลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อที่อ่อนล้าและบอบช้ำจากการถูกใช้งานอย่างหนัก ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ออกกำลังกายได้อึดขึ้นด้วย เพราะร่างกายคนเรามีระดับความทนทานต่อความร้อน การเข้าห้องซาวน่าจะช่วยเพิ่มระดับที่ว่านี้ให้สูงขึ้น ส่งผลดีต่อการเล่นกีฬา คุณจะรู้สึกว่าไม่ค่อยเหนื่อย แถมเรี่ยวแรงยังดีไม่มีตก

3. ขับไล่สารพิษและความเครียด

หนึ่งในวิธีสุดคลาสสิกที่มนุษย์เราขจัดสารพิษออกจากร่างกายคือเหงื่อ ดังนั้นการนั่งเหงื่อแตกในห้องซาวน่านาน 20 นาทีของคุณจึงไม่สูญเปล่า คุณจะรู้สึกถึงรูขุมขนที่เปิดออกพร้อมเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นตามผิว ก่อนตามมาด้วยความฟินระดับพระกาฬ นอกจากนี้ยังช่วยให้สมองโล่งปลอดโปร่ง หลัง Oklahoma State University ให้กลุ่มคนที่เข้ารับการบำบัดความเครียดส่วนหนึ่งทำซาวน่าควบคู่ไปด้วย ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ทำซาวน่าเครียดน้อยกว่าอีกกลุ่มที่ไม่ได้ทำ

4. ผิวดีขึ้น

เข้าใจได้ไม่ยากเพราะการซาวน่าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะผิวหน้าซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญ เจ้าเลือดที่ว่าจะช่วยบำรุงผิวและขจัดเซลล์ที่ตายไปแล้ว ในขณะที่น้ำมันที่ถูกผลิตขึ้นตามธรรมชาติจะช่วยเรื่องความชุ่มชื่นและยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้หน้าเต่งตึงแลดูอ่อนเยาว์

5. เพิ่มภูมิต้านทาน

ต้องยกความดีความชอบให้ระบบไหลเวียนโลหิต (สังเกตว่าหลักๆ ประโยชน์ล้วนมาจากการไหลเวียนของเลือด) อย่างข้อนี้เป็นเพราะซาวน่าช่วยเรื่องการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ร่างกายใช้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย เช่น เชื้อโรคต่างๆ คนที่เข้าห้องซาวน่าเป็นประจำจึงมีเม็ดเลือดขาวปริมาณมาก ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และเมื่อใดที่เจ็บไข้ พวกเขาก็จะหายไวกว่าคนอื่น

20 นาที

คือระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการซาวน่า หลังมีงานวิจัยพบว่าการซาวน่าเป็นเวลานานเกินไปส่งผลต่อจำนวนอสุจิของฝ่ายชาย และควรดื่มน้ำเปล่าตาม 2-3 แก้วหลังซาวน่าเสร็จ

ที่มา: Harvard Men’s Health Watch

เรื่อง: อัสนีพล